ความน่าทึ่งแห่งสถาปัตยกรรมของโบสถ์ศิลาแห่งลาไลเบลา
Friday, February 27th, 2015โบสถ์ศิลาแห่งลาไลเบลา เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นมาหลายศควรรษ เป็นสถานที่ผู้คนที่เชื่อในศาสนาคริสต์ นิยมเดินทางมาเยี่ยมชม เพราะเป็นสถานที่ศักสิทธิ์ ศตวรรษที่13 ชาวเอธิโอเปีย สร้างโบสถ์เหล่านี้ด้วยการ สกัดหินผา ก้อนใหญ่ๆ และสร้างโบสถที่มีความสูง3ชั้นขึ้นมาได้ มีระบบการระบายน้ำที่ชาญฉลาดและน่าทึ่ง สำหรับหินที่นำมาสร้างโบสถ์นั้นมาจากภูเขาไฟ ซึ่งในลาไลเบลานั้นพบโบสถ์ลักษณะนี้ทั้งหมด 11แห่ง แต่งล่ะแห่ง มีความแตกต่างกัน และการตบแต่งที่งดงามวิจิตรด้วยการแกะสลัก เป็นศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวแห่งความเชื่อในศาสนาคริสต์ได้สวยงามและน่าทึ่ง ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมแบบหอคอยทรงสูงและมีคูน้ำล้อมรอบ ทั้งนี้รูปสถาปัตยกรรมที่พบโดยส่วนใหญ่จะเป็นวิหารถ้ำ คล้ายถ้ำตามธรรมชาติ ตบแต่งเป็นโบสถ์เป็นโบสถ์ถ้ำสกัดหิน เจาะเข้าไปในแนวหน้าผา แบ่งออกเป้นหลายๆห้อง เชื่อต่อกันอย่างสลับสับซ้อนและ เป็นรูปแบบการสกัดหิดก้อนเดียว ขุดลึกลงไปในพื้น แล้วขุดคูล้อมรอบ จากจำนวนโบสถ์ 11 แห่งนั้น มีอยู่ 4 หลังที่น่าสนใจซึ่งประกอบไปด้วย1. Beta MedhandAlem 2.Beta Mariam 3.Beta Amanuel 4.Beta Ghiorghisอีก7หลังที่เหลือ สร้างในแบบกึ่งอิสระ มีเพียงมุมด้านหน้าเท่านั้นที่แกะสลักแยกจาผาหิน ส่วนชื่อโบสถ์แต่ล่ะหลังมาจากภาษาฮิบรู คำว่า beta ใกล้กับคำว่า Beth ซึ่งหมายถึงโบสถ์ความเป็นมาของ ลาไลเบลา ทั้งนี้นักโบราณคดีส่วนใหญ่เชื่อตรงกันว่า กษัตริย์พระนามว่า ลาไลเบลามีดำริให้สร้างโบสถ์คริสต์ขึ้น มีตำนานกล่าวว่ากษัตริย์ ถูกอนุชาวางยาพิษสลบไป3วัน ระหว่างนั้นถูกพาไปยังสวรรค์และเห็นเมืองที่แกะสลักจากหินผา และบางตำนานกล่าวว่า กษัตริย์ถูกพาไปยังเยลูซาเลม พระองค์สัญญาว่าเมื่อกลับไปแล้วจะสร้างเยลูซาเลมใหม่ ตำนานอันหลังนี้ นักโบราณคดีเชื่อถือมากกว่าตำนานแรกโบสถ์แต่ล่ะหลังสร้างเสร็จใน24 ปี จะเห็นว่าบ้านของชาวเอธิโอเบียส่วนใหญ่ทำด้วยดิน แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถสกัดหิน เป็นโบสถ์ได้น่าทึงขนาดนี้ น่าทึ่งในความสามารถปัจจุบันทางยูเนสโก ขึ้นทะเบียนเป็นเป็นมรกดโลกแล้วตั้งแต่ ในปี ค.ศ.1978 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นสถาปัตยกรรมของโบสถ์ศิลาแห่งลาไลเบลานับได้ว่าเป็นอีกสถานที่สำคัญอีกที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเพราะนอกจากจะได้ชมกับความงามของโบสถ์แล้วยังได้สัมผัสกับความน่าทึ่งของหินที่นำมาใช้ในการสร้างโบสถ์อีกด้วย