การขออนุญาตใช้โบสถ์เพื่อทำพิธีแต่งงานแบบคริสต์
Wednesday, August 27th, 2014หัวใจของพิธีแต่งงานในศาสนาคริสต์
คือการกล่าวคำมั่นสัญญา ซึ่งหมายถึงการทำพันธสัญญาต่อพระเจ้า ด้วยการกล่าวคำปฏิญาณต่อพระองค์ โดยมีแขกที่มาร่วมในพิธีเป็นพยาน ชาวคริสต์ถือว่าโบสถ์คือความศักดิ์สิทธิ์ และเชื่อว่าพระเจ้าอยู่ที่นี่ จึงรู้สึกดีและรู้สึกถึงความเป็นมงคล แต่มีบางคู่ที่ต้องแต่งงานกันข้างนอกหรือสถานที่อื่น เพราะบาทหลวงหรือศิษยาภิบาลไม่ให้เข้าไปแต่งงานในโบสถ์ อย่างเช่นคู่รักต่างศาสนาที่ยังไม่ได้รับการอบรมการเป็นชาวคริสต์ หรือคู่ที่ท้องก่อนแต่ง อาจารย์บางท่านอาจพิจาณาเหตุและผลที่เหมาะสม และประกอบพิธีให้ แต่ต้องไม่ใช่ในโบสถ์ หรือบางท่านที่อนุรักษ์นิยมมาก ก็จะไม่ประกอบพิธีให้เลย
สิ่งแรกไม่แตกต่างกับงานแต่งงานทั่วไป คือ การสู่ขอ จองสถานที่ จัดงานเลี้ยง พิมพ์และส่งการ์ดเชิญ โดยที่สำคัญคือ จองโบสถ์ และการจองผู้ประกอบพิธีกรรม คือ บาทหลวง (สำหรับคาทอลิก) หรือศิษยาภิบาล (สำหรับคริสเตียนหรือโปรแตสแตนท์) การเลือกวันและสถานที่ จัดพิธีแต่งงาน พร้อมการปรึกษาหารือกับบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายด้วย ซึ่งสามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับพิธีแต่งงานในโบสถ์ได้จากบาทหลวงหรือศิษยาภิบาล การเริ่มต้นก่อนวันสมรสด้วยการซ้อมใหญ่ มักจะทำการซ้อมในคืนก่อนวันสมรส โดยพระผู้ประกอบพิธีกรรม คู่บ่าวสาว และผู้ร่วมพิธีทุกคนจะมาพร้อมกันที่โบสถ์ เพื่อซ้อมลำดับพิธีกรรมทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบตามธรรมเนียม
ก่อนที่จะเริ่มเข้าพิธีแต่งงานแบบคริสต์นั้น คู่บ่าวสาวจะต้องทำการเข้ารับการอบรมการใช้ชีวิตคู่อย่างน้อย 2-3 เดือน ถึงแม้ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะไม่ได้เป็นคาทอลิคก็ตาม เนื้อหาในการอบรมส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับ ความหมายและศีลธรรมของการใช้ชีวิตคู่ วิธีวางแผนครอบครัว การครองเรือน การเลี้ยงดูบุตร และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องในครอบครัว เป็นต้น ซึ่งเนื้อหาของการอบรมถือได้ว่า เป็นประโยชน์กับชีวิตหลังการแต่งงาน คู่รักหนุ่มสาวอาจจะทำการปรึกษาบาทหลวงผู้ทำพิธี เพื่อขอคำแนะนำเรื่องเวลาสถานที่ในการอบรมหรือให้การอบรมโดยตรงก็ได้
การติดต่อพูดคุยกับบาทหลวง
เพื่อทำการขออนุญาตใช้โบสถ์เป็นสถานที่จัดงานวันสำคัญของคุณล่วงหน้าเป็น เวลาอย่างน้อย 4-5 เดือน เจ้าสาวและเจ้าบ่าวจะต้องทำการเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆอย่างเช่น ใบเอกสารเพื่อขอจัดพิธีสมรส ซึ่งมีบาทหลวงเป็นพยาน เมื่อจบพิธีแต่งงานแบบคริสต์ในโบสถ์แล้ว คู่รักบ่าวสาวก็จะเดินออกมา บรรดาแขกเหรื่อในงานก็จะช่วยกันทำการโปรยกลีบดอกไม้ และทำการเดินกันออกมาที่หน้าบริเวณโบสถ์ เจ้าสาวก็จะทำการโยนช่อดอกไม้ในมือไปให้กับบรรดาแขกผู้มาร่วมงาน หญิงสาวที่ยังโสดก็จะรีบออกมารับเป็นที่สนุกสนาน หลังจากนั้นก็อาจมีการฉลองหรือทำการรับประทานอาหารร่วมกัน