Posted by admin on March 21st, 2018 — Posted in รักษาสุขภาพ, สินค้า

กำลังเป็นปัญหาที่พบบ่อยในปัจจุบันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีของผู้คน หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการป้องกันโรคกรดไหลย้อนคือการรับประทานอาหารที่สมดุลและหลีกเลี่ยงอาหารบางอย่างที่เป็นที่รู้จักเพื่อทำให้เกิดอาการอิจฉาริษยาและกรดไหลย้อน
ควรรับประทานอาหารของผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน
อย่างรอบคอบ พวกเขาไม่ควรกินอาหารที่กระตุ้นกรดไหลย้อน อาหารเช่นแอปเปิ้ลสดเช่นเดียวกับแอปเปิ้ลแห้งจะเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ทุกข์ทรมานจากกรดไหลย้อน น้ำแอปเปิ้ลยังทำหน้าที่เป็นยาที่ดีสำหรับโรค การกินกล้วยทั้งหมดเป็นการรักษาที่ดีสำหรับกรดไหลย้อน กล้วยเป็นจริงที่กล่าวว่าเป็นยาลดกรดตามธรรมชาติ ผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่ช่วยในการบรรเทาอาการกรดไหลย้อนเป็นมะละกอ มะละกอสามารถรับประทานได้ในรูปของยาหลังอาหาร สับปะรดยังเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน นอกจากนี้การเพิ่มปริมาณของเส้นใยในอาหารเป็นประโยชน์ในการกำจัดกรดไหลย้อน การรับประทานน้ำปริมาณมากช่วยให้กรดไหลย้อนได้ดี
ควรใส่ผักเช่นมันฝรั่งอบผักชนิดหนึ่งกะหล่ำปลีแครอทถั่วเขียวและถั่ว นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ดีมากสำหรับโรคกรดไหลย้อน เนื้อวัวสเต็กลีนเนื้อไก่เต้าเจี้ยวไข่ขาวไข่ขาวไข่แทนปลาเป็นต้นถือว่าเป็นอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้ดี ควรคำนึงถึงอาหารที่ไม่ควรมีไขมันมากเกินไป แม้ว่าผลิตภัณฑ์นมเช่นชีสนม กรดไหลย้อน หรือแพะครีมชีสและครีมปราศจากไขมันถือเป็นสุขภาพสำหรับการบริโภคของผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนรูปแบบไขมันส่วนใหญ่ควรหลีกเลี่ยง ในบรรดาข้าวบาร์เลย์เพรทเซิลข้าวทั้งสีน้ำตาลหรือขาวแคร็กเกรแฮมข้าวขนมปังข้าวโพดธัญพืชรำข้าวหรือข้าวโอ๊ตและขนมปัง จะถือว่าเป็นมิตรกับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน
มีอาหารบางอย่างเช่นไขมันอาหารทอดและเผ็ด
ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศและส้มเช่นน้ำมะนาวส้มและน้ำเกรพฟรุต น้ำผลไม้แครนเบอร์รี่, ช็อคโกแลต, สะระแหน่, พริกไทย, กาแฟ, ชากับคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันกรดไหลย้อน ผักเช่นมันฝรั่งบด, มันฝรั่งทอดและหัวหอมดิบเป็นอันตรายต่อผู้ประสบภัย ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์นมเช่นครีมเปรี้ยวนมและไอศกรีมและชีสปกติ มักกะโรนีสปาเก็ตตี้กับซอสและเนยแข็งยังไม่เป็นมิตรกับผู้ป่วยกรดไหลย้อน เนื่องจากผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ที่กล่าวมาแล้วเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยกรดไหลย้อน ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงไขมันและอาหารทอดสะระแหน่และหอกนมนมน้ำมันและซุปครีม คนที่ทุกข์ทรมานจากกรดไหลย้อนหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจากร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด
Comments Off on ลักษณะของการแก้ไขปัญหากรดไหลย้อนที่เลือกได้
Posted by admin on September 7th, 2016 — Posted in โอกาสทางธุรกิจ

อาสนวิหารพระแม่บังเกิด สมุทรสงคราม เป็นโบสถ์เก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่ที่ตำบลบางนกแขวก อำเภออัมพวา เป็นโบสถ์ในนิกายคาทอลิกที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคของประเทศฝรั่งเศส ตัวอาคารมีโดมยอดแหลมแลดูสวยงามเหมือนปราสาท ในยุโรป ไฮไลท์ของที่นี่คือกระจกสีโบราณที่นำมาจากฝรั่งเศสอายุเก่าแก่พอๆ กับโบสถ์ที่ยังคงความสดใสงดงามอยู่ นอกจากนี้ยังมี แนวซุ้มประตูทางเดินที่เรียงตัวตรงกันอย่างเป็นระเบียบ
โบสถ์คริสต์พระหฤทัย ราชบุรีหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโบสถ์วัดเพลง เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกอายุกว่าร้อยปีที่ตั้งอยู่ริม คลองแควอ้อม ในอำเภอวัดเพลง โบสถ์แห่งนี้เป็นลูกวัดของอาสนวิหารพระแม่บังเกิดที่จังหวัดสมุทรปราการ ตัวโบสถ์สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมโกธิค มีจุดเด่นอยู่ที่ยอดโดมแหลมที่อยู่คู่กันขนาบข้างหน้าตัวอาคาร พร้อมกับลายปูนประดับที่วิจิตรบรรจง
อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล จันทบุรี เป็นวิหารคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่เก่าแก่ผ่านสมัยสงครามครั้งที่ 2 อายุกว่าสองร้อยเจ็ดสิบปีตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรีในเขตอำเภอเมืองจันทบุรี ตัวอาคารสร้างตามศิลปะแบบโกธิคที่สวยงามอลังการ ตัวโครงสร้างอาคารเป็นแบบเดียวกับวิหารนอทเทอร์ดัมของปารีส ด้านหน้าโบสถ์มีพระรูปของพระแม่มารีทรงประทับยืนโดดเด่นเป็นสง่าสวยงาม ส่วนภายในตกแต่งด้วยกระจกสีและลวดลายบนผนังที่อ่อนช้อยงดงาม
อาสนวิหารพระหฤทัย เชียงใหม่ เป็นโบสถ์คาทอลิกแห่งแรกของภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่ น้ำปิงด้านตะวันตก ในตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ตามแบบยุโรป ตัวอาคารทรงเหลี่ยม หลังคาจั่ว มียอดโดมประดับไม้กางเขน ดูสวยงามและทันสมัย ห้องโถงมีขนาดใหญ่สามารถจุคนได้มากถึง 600 คน
อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล สกลนคร ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร ชุมชนคริสต์ท่าแร่เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ อพยพมาจากเวียดนามเมื่อกว่า 130 ปีที่แล้ว อาสนวิหารในปัจจุบันเป็นวัดหลังที่ 3 ตัวโบสถ์ออกแบบและสร้างด้วยสถาปัตยกรรมสมัย ใหม่คล้ายเรือขนาดใหญ่สีขาว จุดเด่นภายในวิหารคือเสากางเขนไม้สักซึ่งเป็นเสาดั้งเดิมตั้งอยู่บนพระแท่น นอกจากนี้ยังมีรูปสลักพระมารดาแห่งมรณสักขีสองคอนขนาดใหญ่ทำจากไม้มะยมหอม
โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ ยโสธร เรียกอีกชื่อว่าวัดอัครเทวดามีคาแอล เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกที่สร้างด้วยไม้มีขนาด ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเสาไม้เกือบสามร้อยต้นและใช้ไม้มุงหลังคากว่าแปดหมื่นแผ่น ตัวอาคารสร้างแบบสถาปัตยกรรมไทยมี อายุกว่า 50 สามารถจุคนได้กว่าพันคนด้านข้างมีหอระฆังสูงที่สร้างตามแบบวัดไทย นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใช้จัดพิธีสมรสหมู่แบบ คาทอลิกในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ไปเที่ยวชมโบสถ์แห่งนี้ได้ที่อำเภอไทยเจริญ
Comments Off on โบสถ์ที่น่าสนใจและสวยงาม
Posted by admin on November 2nd, 2015 — Posted in บริการ
Tags: ศาสนาคริสต์

ศาสนาคริสต์ มีโบสถ์ วิหาร ใช้เป็นที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ ของคริสตชน เชื่อว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์ จากหญิงพรหมจรรย์ (สาวบริสุทธิ์) โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าเพื่อไถ่มนุษย์ให้พ้นจากความบาปโดยการสิ้นพระชนม์ที่กางเขน และทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายในสามวันหลังจากนั้น และเสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระบิดา ผู้ที่เชื่อและไว้วางใจในพระองค์จะได้รับการอภัยโทษบาป และจะเข้าสู่การพิพากษาในวันสุดท้ายเหมือนทุกคน แต่จะรอดพ้นจากการถูกพิพากษาให้ตกนรกแต่จะเป็นการพิพากษาเพื่อรับบำเหน็จรางวัลแทนในวันสิ้นโลก (Armageddon) และได้เข้าสู่พระราชัยสวรรค์ แต่ถ้าผู้ใดไม่เชื่อจะถูกปรับโทษหลังความตาย สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดพิธีกรรมในคริสต์ศาสนาเรียกว่า “ศีลศักดิ์สิทธิ์” อันหมายถึงเครื่องหมายภายนอก ที่พระเยซูคริสต์ทรงตั้งขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้คนไปสู่ความหลุดพ้นจากความทุกข์
พิธีกรรมก็ต้องมีศาสนสถานเกิดขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางของผู้คนในศาสนาคริสต์ที่จะไถ่บาปหรือร่วมทำพิธีกรรม ส่วนในเรื่องของความเชื่อก็ได้สื่อออกมาในรูปแบบของงานสถาปัตยกรรมตามความเชื่อทางศาสนาและงานจิตรกรรมภายในโบสถ์อย่างสวยงามในทางคริสต์ศาสนา โบสถ์ หมายถึง อาคารหรือสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์มารวมกันเพื่อประกอบพิธีหรือทำศาสนกิจร่วมกัน คำว่าโบสถ์ในภาษาอังกฤษ หรือ “church” อาจมีความหมายกว้างขึ้นหมายถึง คริสตจักร ซึ่งคริสตจักรในความหมายตามพระคัมภีร์ หมายถึง ประชากรหรือชุมชนของพระเจ้า พระคัมภีร์เดิมฉบับแปลกรีก (เซปทัวจินต์) ใช้คำกรีกคำนี้เพื่อแปลคำว่า “ชุมชน” ส่วนในเรื่องของ นิกาย ที่นับถือกันมากในประเทศไทยได้แก่ นิกายโรมันคาทอลิก (คริสตัง) และ นิกายโปรเตสแตนต์ (คริสเตียน) โบสถ์ของแต่ละนิกาย ในแง่ของอาคารอาจเหมือนหรือแตกต่างกันก็ได้ (ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่น) แต่ในแง่ของจารีตคำเรียก และรูปสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันบ้าง
ศาสนสถานของศาสนาคริสต์ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นศูนย์ร่วมของศาสนาคริสต์ในทุกเรื่อง มีความหมายสำหรับทุกคนและเป็นสถานที่เผยแผ่ เก็บรักษาพระคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งเป็นหนังสืออันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนายิวและคริสต์ศาสนา และสืบทอดศาสนาคริสต์ต่อไป
Comments Off on ศาสนสถานของศาสนาคริสต์ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นศูนย์ร่วมของศาสนาคริสต์
Posted by admin on September 25th, 2015 — Posted in บริการ
Tags: โบสถ์มีส่วนประกอบคราวๆ

“โบสถ์” คืออาคารศักดิ์สิทธิ์สร้างขึ้นเพื่อนมัสการพระเจ้าเป็นสถานที่ซึ่งบรรดาสัตบุรุษรวมตัวกันปฏิบัติคารวกิจสาธารณะ อาคารโบสถ์หมายถึง “บ้านของพระเจ้า” ด้วย คือบ้านที่มีไว้เพื่อให้ประชากรของพระมาชุมนุมพร้อมกันประกอบพิธีกรรมการมา ชุมนุมกันเพื่อนมัสการพระเจ้า เป็นเอกลักษณ์ประการหนึ่งของวิถีชีวิตคริสตชน และคริสตชนสำนึกตนเองว่าเป็นประชากรของพระเจ้า และพวกเขาก็มารวมตัวกันถวายนมัสการในฐานะที่เป็นประชากร
คริสตศานาในประเทศไทยมีหลายนิกาย แต่ละนิกายจะมีจารีตและการใช้คำ สัญลักษณ์ที่แตกต่างกันนิกายที่มีประชาชนรู้จักและนับถือกันมากมีอยู่ 2 นิกาย คือ นิกายโรมันคาทอลิก (คริสตัง) และนิกายโปรเต สเเตนต์ (คริสเตียน) แต่ละนิกายจะมีวิธีเรียกที่แตกต่างกันเช่น นิกายโรมันคาทอลิคจะเรียกโบถส์ของตนเองว่า โบสถ์ เช่น โบสถ์พระแม่มารี โบสถ์ในนิกายนี้จะตกต่างด้วยสถาปัตยกรรมยุโรบ ประดับประดาด้วยรูปปั้นต่างๆ แต่นิกายโปรแตสแตนส์จะเรียนกโบถส์ของตนเองว่า คริสตจักร เช่น คริสตจักรพระสัญญา อาคารของโบสถ์จะเน้นความเรียบง่ายเหมือนอาคารทั่วไป ไม่เน้นรูปเคารพหรือรูปปั้น อาจจะมีไม้กางเขนเล็กพอเป็นเครื่องหมายแสดงถึงอาคารทางด้านศาสนกิจเท่านั้น
โบสถ์มีส่วนประกอบคราวๆ ดังนี้
- ลานหน้าโบสถ์ ลานหน้าโบสถ์ถือว่ามีความสำคัญมากที่จะต้องมีเผื่อไว้ เพราะลานนี้จะแสดงออกซึ่งคุณค่าของการให้การต้อนรับเป็นด่านแรก ดังนั้น อาจออกแบบเป็นรูปลานหน้าโบสถ์ที่มีเสาเรียงรายรองรับซุ้มโค้งอยู่โดยรอบๆ ด้าน หรือรูปแบบอย่างอื่นที่จะส่งผลคล้ายคลึงกัน บางครั้งก็ใช้ลานดังกล่าวในการประกอบพิธีด้วย หรือบางทีก็ใช้เป็นทางผ่านเข้า เป็น “ตัวเชื่อมโยง” ระหว่าง “ภายนอกโบสถ์” และ “ภายในโบสถ์” โดยจะต้องไม่ให้ส่งผลกระทบที่กลายเป็นการปิดกั้น แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อการปรับสภาพจิตใจจากความสับสนวุ่นวายของชีวิตภายนอกเตรียมจิตใจเข้าสู่ความสงบภายในโบสถ์
- ระเบียงทางเข้าสู่อาคารโบสถ์และประตูโบสถ์ การสร้างโบสถ์ในคติเดิมเพื่อจะผ่านเข้าสู่โถงภายในอาคารโบสถ์ จะต้องผ่านระเบียงทางเข้าสู่อาคารโบสถ์ก่อนและบริเวณนั้นจะมีประตูโบสถ์อยู่ด้วยระเบียงนี้ คือ บริเวณที่ให้การต้อนรับบรรดาสัตบุรุษผู้มาร่วมพิธีซึ่งเปรียบเสมือนพระศาสนจักรเหมือน “มารดาผู้ให้การต้อนรับลูกๆ ของพวกเธอ” และประตูทางเข้าอาคารโบสถ์ก็เปรียบเสมือน “พระคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นประตูของบรรดาแกะทั้งหลาย ” ดังนั้นหากจะมีภาพตกแต่งที่ประตูกลาง ก็ให้คำนึงถึงความหมายดังกล่าวขนาดของประตูและทางเข้านี้ นอกจากจะต้องคำนึงถึงสัดส่วนให้เหมาะสมกับขนาดความจุของโถงภายในโบสถ์แล้ว ยังจะต้องคำนึง ถึงความจำเป็นของขบวนแห่อย่างสง่าที่จะต้องผ่านเข้าออกด้วย
- หอระฆังและระฆังโบสถ์ ในการออกแบบก่อสร้างโบสถ์ควรจะคำนึงถึงบริเวณการก่อสร้างหอระฆังและกำหนดให้มีการใช้ระฆัง เพื่อประโยชน์ใช้สอยแบบดั้งเดิม นั่นคือ การเรียกสัตบุรุษให้มาร่วมชุมนุมกันในวันพระเจ้า หรือเป็นการแสดงออกถึงวันฉลองและสมโภช รวมทั้งเป็นการสื่อสารให้ทราบถึงกันด้วยสัญญาณการเคาะระฆัง เช่น ระฆังเข้าโบสถ์วันธรรมดา ระฆังพรหมถือสาร ระฆังวันสมโภช ระฆังผู้ตาย ฯลฯ ควรละเว้นการใช้เสียงระฆังจากเครื่องเสียงและลำโพง
- รูปพระ สอดคล้องกับธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมของพระศาสนจักร พระรูปของพระคริสตเจ้า, พระแม่มารี และนักบุญได้รับการเคารพ ในโบสถ์ต่างๆแต่รูปพระเหล่านี้จะต้องจัดวางในลักษณะที่จะไม่ทำให้สัตบุรุษ วอกแวกไปจากการประกอบพิธีที่กำลังดำเนินอยู่และไม่ควรจำนวนมาก และจะต้องไม่มีรูปนักบุญองค์เดียวกันมากกว่าหนึ่งรูป รวมทั้งจัดขนาดให้เหมาะสมด้วย โดยปรกติแล้วควรจะคำนึงถึงความศรัทธาของหมู่คณะทั้งหมดในการตกแต่งและการจัดสร้างโบสถ์
- อ่างน้ำเสก อ่างน้ำเสกเตือนให้ระลึกถึงอ่างล้างบาป และน้ำเสกที่สัตบุรุษใช้ทำเครื่องหมายกางเขนบนตนเองนั้น เป็นการเตือนใจให้ระลึกถึงศีลล้างบาปที่เราได้รับ ด้วยเหตุนี้เองที่อ่างน้ำเสกจึงตั้งไว้ตรงทางเข้าโบสถ์นอกจากนี้ยังกำชับให้ใช้วัสดุเดียวกัน มีรูปแบบและรูปทรงสอดคล้องกับอ่างล้างบาปด้วย
Comments Off on คริสตศานาในประเทศไทยมีหลายนิกาย
Posted by admin on August 25th, 2015 — Posted in บริการ

โบสถ์บาโรคแห่งฟิลิปินส์ ประกอบด้วยโบสถ์โรมันคาทอลิก 4 แห่งที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 16-18 ในช่วงที่ฟิลิปปินส์เป็นอาณานิคมของสเปน นอกจากจะแสดงถึงการเข้ามาของศาสนาคริสต์ในหมู่เกาะของฟิลิปปินส์แล้ว ยังเป็นศูนย์กลางอำนาจในการปกครองอาณานิคมของสเปนด้วย สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์ไม่เพียงแค่สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของสถาปัตยกรรมแบบสเปนหรือละตินอเมริกันกับสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังมีการผสมผสานศิลปลวดลายของจีนอีกเข้าไปอีกด้วยเนื่องจากความมีอิทธิพลของคริสตจักรในทางการเมือง ทำให้คริสตจักรและรัฐถือเป็นหนึ่งเดียวกัน คริสตจักรจึงกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากการปฏิวัติและการก่อกบฏในประเทศ โบสถ์เหล่านี้จึงไม่ใช่มีเพียงสิ่งก่อสร้างที่ให้บริการทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังปรากฏสิ่งก่อสร้างในลักษณะป้อมปราการอยู่ด้วย เช่น ในกรณีของโบสถ์ซานตามาเรีย ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาและทำหน้าที่เป็นป้อมปราการในช่วงเวลาวิกฤต และโบสถ์ ไมอากาโอ ซึ่งทำหน้าที่ต้านทานการโจมตีเป็นครั้งคราวของชาวมุสลิมจากภาคใต้ นอกจากนี้ที่ตั้งของประเทศฟิลิปปินส์ยังตั้งอยู่บนแนวที่เรียกว่าวงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มเกิดแผ่นดินไหวได้บ่อย ๆ การก่อสร้างจึงให้ความสำคัญกับรากฐานของโบสถ์ แม้บางแห่งจะรับความเสียหายจากแผ่นดินไหว แต่ก็ได้สร้างขึ้นมาใหม่ทดแทน โบสถ์ทั้ง 4 แห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมร่วมกันเมื่องปี พ.ศ.2536
โบสถ์ซานออกัสตินในกรุงมะนิลา เป็นโบสถ์คาทอลิกแห่งแรกที่สร้างขึ้นบนเกาะลูซอนในปี ค.ศ. 1571 ทันทีที่สเปนมีชัยเหนือมะนิลา เป็นโบสถ์ในลัทธิออกัสติน ซึ่งเป็นนิกายแรกที่ประกาศพระวจนะในประเทศฟิลิปปินส์ตัวโบสถ์ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นมาเป็นครั้งที่ 3 ในพื้นที่เดิม โบสถ์หลังแรกสร้างจากไม้ไผ่และใบจาก เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ 1571 แต่ถูกทำลายด้วยไฟไหม้จากการรุกรานในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1574 โบสถ์หลังที่สองสร้างด้วยไม้อยู่บนพื้นที่เดิม และถูกทำลายลงในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ 1583 ด้วยไฟไหม้ โบสถ์หลังที่สามสร้างด้วยหิน การก่อสร้างเริ่มใน 1586 เสร็จสมบูรณ์เมื่อ 19 มกราคม ค.ศ.1607 ต่อมาโบสถ์แห่งนี้ได้กลายเป็นแม่แบบของโบสถ์ออกัสตินในประเทศฟิลิปปินส์ โบสถ์พระแม่แห่งอัสสัมชัน หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ โบสถ์ซานตามาเรีย ในจังหวัดโลคอสซู ฟิลิปปินส์ สร้างตั้งขึ้นในปี 1765 ในที่ราบแคบ ๆ ระหว่างทะเลและเทือกเขากลางตอนของเกาะลูซอนนับว่าเป็นโบสถ์ออกัสติเนียนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฟิลิปปินส์ ทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับคริสต์ศาสนิกชนที่อยู่ทางตอนเหนือของหมู่เกาะเป็นหนึ่งในสี่โบสถ์ยุคสเปน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในชื่อ โบสถ์บาโรคแห่งฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1993โบสถ์ซานตามาเรีย นอกจากจะเป็นสิ่งที่ให้ระลึกถึงสี่ศตวรรษของการปกครองของสเปนในพื้นที่นี้แล้วยังสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรคที่โดดเด่นตัวอาคารโบสถ์ก่ออิฐสีแดงโดดเด่น มีโครงสร้างที่ป้องกันการถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหว ตัวโบสถ์สร้างขึ้นบนเนินเขา ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นจุดชมวิวและเป็นป้อมปราการเท่านั้น แต่เป็นศูนย์กลางทางศาสนาในยุคแรกของการบริหารภูมิภาค โดยคริสต์ศาสนาและทหารของสเปน
Comments Off on คริสตจักรกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากการปฏิวัติและการก่อกบฏในประเทศ
Posted by admin on July 28th, 2015 — Posted in บริการ

เมื่อแรกมาถึงยังไม่ได้สร้างคริสตจักรถาวร ผู้แทนเจ้าหลวงเชียงใหม่อนุญาตให้พักอยู่ที่ศาลาพักสาธารณะสำหรับประชาชนซึ่งตั้งอยู่บริเวณประตูเมืองทางด้านทิศตะวันออก ศาลาพักหลังนี้สร้างโดยข้าราชการเมืองระแหง ที่สร้างเพื่อเป็นการทำบุญตามประเพณีในพุทธศาสนา เป็นศาลาที่สร้างอย่างมั่นคงแข็งแรง หลังคามุงกระเบื้อง พื้นศาลาปูด้วยไม้สักอย่างดี คณะมิชชันนารีได้ใช้ศาลาแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่ศาสนาเป็นเวลาปีกว่า ก่อนสร้างคริสตจักรถาวรคือ คริสตจักรเพรสไบทีเรียนที่ 1 เชียงใหม่ บนถนนเชียงใหม่-ลำพูน
การมามุงดูของชาวเมืองก็มีประโยชน์อยู่บ้างคือ การได้พูดคุยพร้อมกับการเผยแผ่ศาสนาไปด้วยมีผู้หญิงตัวขาวและเด็กด้วย หมู่เฮาต้องไปดูกัน เวลาที่ชาวบ้านชอบมากคือ เวลารับประทานอาหาร เพราะอยากดูว่า ฝรั่งกินอย่างไร กินอะไร พวกเราแทบไม่มีเวลาตอนกลางวัน วันใดเลยที่จะได้นั่งรับประทานอาหารอย่างเงียบๆ โดยไม่มีผู้จ้องดู ชาวบ้านต่างพูดกันว่า พวกฝรั่งไม่นั่งกินข้าวบนพื้นหรือใช้มือกินแบบพวกเรา ซึ่งเป็นการที่ หมู่เฮาต้องไปดูกันศาสนาจารย์เดเนียล แมคกิลวารี เล่าอย่างขบขันถึงความรู้สึกของชาวเมืองที่เห็นพวกตนเดินทางขึ้นมาเผยแผ่ศาสนาว่า ในปี พ.ศ. 2411 พระเจ้ากาวิโลรส สุริยวงศ์ ได้ยกพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิงให้กับคณะมิชชันนารี ทางคณะมิชชันนารีจึงได้ใช้พื้นที่นี้สร้างคริสตจักรเพรสไบทีเรียนที่ 1 เชียงใหม่ ระยะแรกสร้างเป็นอาคารไม้ไผ่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2432-2434 ได้มีรื้ออาคารไม้ไผ่ และสร้างอาคารหลังใหม่เป็นอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกหลังแรกในเชียงใหม่ ออกแบบและก่อสร้างโดย ดร. มาเรียน เอ.ชีค.
ในปีพ.ศ. 2413 พระเจ้ากาวิโลรส สุริยวงศ์ถึงแก่พิราลัย จากปัจจัยดังกล่าวทำให้มีคนเข้ามานับถือคริสต์ศาสนาเพิ่มมากขึ้นถ้าผู้ใดจะชอบใจถือศาสนาใด ก็ให้ผู้นั้นถือได้ตามชอบใจทำให้มีผู้คนกลัวกันมากจนไม่มีใครกล้านับถือศาสนาคริสต์อีก จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2412 มีการออกพระราชกฤษฎีกาของเจ้าพระยาเทพวรชุน ที่ปรึกษาราชการในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีความว่า การละทิ้งศาสนาประจำชาติ เป็นกบฏต่อฉัน จึงต้องลงโทษอย่างนี้การทำงานในระยะแรกทำควบคู่ไปกับการรักษาพยาบาลแผนใหม่ โรคสำคัญที่เป็นกันมากคือไข้มาเลเรียเรื้อรัง โรคคอหอยพอก และไข้ทรพิษ การรักษาพยาบาลทำให้คณะมิชชันนารีมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมาก จนอาจกล่าวได้ว่าการเผยแผ่ศาสนาในระยะแรกนั้นไม่ค่อยได้ผลมากเท่ากับการรักษาพยาบาล ทั้งนี้เพราะทางการเองมิได้ให้การสนับสนุนมากนัก จะเห็นได้จากในวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2411 พระเจ้ากาวิโลรส สุริยวงศ์ สั่งประหารหนานชัย และน้อยสุริยะ 2 ใน 7 คนของผู้นับถือศาสนาคริสต์ในเชียงใหม่ขณะนั้น โดยอ้างว่า
Comments Off on การสร้างโบสถ์คริสตจักรก็เป็นการเผยแผ่ศาสนาอีกวิธีหนึ่ง
Posted by admin on June 28th, 2015 — Posted in บริการ
Tags: โบสถ์ที่สวยงามในเมืองไทย

โบสถ์สถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้ที่นับถือศาสนา และยังเป็นสถานที่ในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ในต่างประเทศมีโบสถ์สวยงามมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย และโบสถ์ที่สวยงามในเมืองไทย มีดังนี้
โบสถ์อัสสัมชัญ ตั้งอยู่ซอยโอเรียนเต็ล เขตบางรัก โบสถ์นี้มีดารานิยมจัดพิธีแต่งงาน ซึ่งโบสถ์นี้มีความเก่าแก่ถึง 200 ปี ถูกสร้างขึ้นในปี 2352 เพื่อถวายแก่พระนางมารีอา คือการได้รับการอัญเชิญขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ และในปี 2485 ได้มีการทิ้งระเบิด จึงทำให้อาคารได้รับความเสียหาย ทำให้ต้องได้รับการซ่อมแซม ศิลปะภายในโบสถ์มีความงดงามด้านจิตรกรรมปูนปั้นและกระจกสีถึง 46 บานด้วย
โบสถ์กาลหว่าร์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซอยวานิช แขวงตลาดน้อย ในอดีตถูกตั้งขึ้นเพื่อศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอริกจำนวนหนึ่งที่อพยพเข้ามายังประเทศไทย หลังจากนั้นในสมัยรัชกาลที่ 1 จึงได้สร้างวัดขึ้นในปี พ.ศ.2330 นั้นเอง มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบนีโอโกธิคที่สวยงาม โดยผนังเป็นการก่ออิฐถือปูนแบบโบราณและตกแต่งด้วยกระจกสี
โบสถ์คอนเซ็ปชัญ ตั้งอยู่ซอยมิตตคาม เขตดุสิต พระเจ้าแผ่นดินในขณะนั้น เพื่อขอพระราชทานที่ดินสำหรับสร้างวัดและโรงพยาบาล และได้สร้างวัดในศาสนาคริสต์ขึ้นด้วยอิฐลาดปูน ซึ่งบริเวณนี้ก็ถือเป็นชุมชนชาวคริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ อีกทั้งคริสตังโปรตุเกสกลุ่มนี้ได้นำพระรูปแม่พระซึ่งเป็นไม้แกะสลักมาด้วย
โบสถ์เซนต์ฟรัง ตั้งอยู่ซอยมิตตคาม เขตดุสิต วัดแห่งนี้อยู่ใกล้เคียงกับวัดคอนเซ็ปชัญถือกำเนิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 พระองค์ให้สร้างโบสถ์หลังหนึ่งเพื่อใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจ จึงได้มีการสร้างวัดใหม่เป็นไม้ และได้นำพระรูปแม่พระและรูปนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ จากมะนิลามาตั้งในวัดหลังที่สองนี้
โบสถ์ซางตาครูส ตั้งอยู่ที่เทศบาลสาย 1 เขตธนบุรี โบสถ์แห่งแรกสร้างขึ้นด้วยไม้ และใช้ประกอบพิธีกรรมเรื่อยมาจนทรุดโทรมมาก ใน พ.ศ.2378 จึงได้สร้างโบสถ์หลังที่สองขึ้น มีรูปร่างคล้ายศาลเจ้าจีน และเมื่อเวลาผ่านไปโบสถ์แห่งนี้ได้เผชิญภัยหลายครั้งทั้งน้ำท่วมและไฟไหม้ กระทั่งในปี พ.ศ.2456 จึงได้สร้างโบสถ์หลังปัจจุบันขึ้นนั่นเอง
Comments Off on ประวัติโบสถ์ที่สวยงามในเมืองไทย
Posted by admin on May 25th, 2015 — Posted in บริการ

ตามเอกสารประวัติศาสตร์คาดว่าโบสถ์นักบุญโธมัสถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1212 ด้วยสถาปัตยกรรมยุค Romanesque ออกแบบโดยมาร์กราเฟ่ ดีตริช เพื่อเป็นอารามของคณะออกัสติเนียน ต่อมาในปี ค.ศ. 1355 จึงได้มีการบูรณะตัวโบสถ์ให้ทันสมัยขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมกอทิก ปัจจุบันยังคงหลงเหลือรูปแบบสถาปัตยกรรมดังกล่าวในบริเวณที่เป็นหน้าต่างทางทิศเหนือของโบสถ์ และบริเวณพื้นชั้นล่างของหอคอย ในยุคศตวรรษที่ 15 อุตสาหกรรมเหมือง แร่เงิน ทางด้านใต้ของเมืองไลพ์ซิก สร้างรายได้ให้แก่ชาวเมืองอย่างมาก โบสถ์แห่งนี้จึงได้รับการบูรณะใหม่ โดยขยายขนาดให้โอ่โถงยิ่งขึ้น โถงห้องประชุมใหญ่ถูกออกแบบโดยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคยุคปลาย ซึ่งเป็นต้นแบบของโบสถ์นักบุญโธมัสที่เห็นในปัจจุบัน โดยการบูรณะตัวโถงห้องประชุมแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1496 ยกเว้นส่วนหอคอยซึ่งมีความสูงถึง 68 เมตร ใช้เวลาในการสร้างยาวนาน แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1702 สถาปัตยกรรมของโบสถ์นักบุญโธมัส ซึ่งโครงสร้างหลักของโบสถ์นักบุญโธมัส ได้คงรูปแบบนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การตกแต่งภายในโบสถ์ ได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นแบบ Baroque ในช่วงปี ค.ศ. 1723 – ค.ศ. 1750 ซึ่งเป็นช่วงที่โยฮันน์ เซบาสเตียน บาค ทำงานเป็นนักดนตรี และนักประพันธ์เพลงที่เมืองไลพ์ซิก และต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 การตกแต่งภายในจึงได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นแบบ โกธิคยุคใหม่ ใน ตามค่านิยมในยุคนั้น และได้คงรูปแบบดังกล่าวไว้จวบจนปัจจุบัน
ในปี ค.ศ. 1539 มาร์ติน ลูเทอร์ นักการปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์และผู้ก่อตั้งลูเทอแรน ได้มาเทศนาที่โบสถ์แห่งนี้ ปัจจุบัน โบสถ์นักบุญโธมัสเป็นสถานนมัสการประจำสำหรับคริสเตียนนิกายลูเทอแรน มีรอบนมัสการทุกวันอาทิตย์เวลา 10:00 น. โยฮันน์ เซบาสเตียน บาค ทำงานเป็นนักดนตรี นักประพันธ์เพลง และหัวหน้าคณะนักร้องประสานเสียง ประจำโบสถ์ในเมืองไลพ์ซิก อันได้แก่ โบสถ์นักบุญโธมัส โบสถ์นักบุญนิโคลัส โบสถ์นักบุญเปาโลและโบสถ์โยฮานเนส ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1723 จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1750 เดิมสุสานของเขา ตั้งอยู่ ณ โบสถ์โยฮานเนส เนื่องจากโบสถ์ดังกล่าวถูกระเบิดเสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงได้มีการย้ายสุสานของเขามายังโบสถ์นักบุญโธมัสแห่งนี้ในปี ค.ศ. 1950 จนปัจจุบัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1908 ได้มีการสร้างอนุสวรีย์ โยฮันน์ เซบาสเตียน บาค ตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ภายนอกของโบสถ์อีกด้วย และในปี ค.ศ. 2007 จึงได้มีการสร้างอนุสวรีย์ของเฟลิกซ์ เมลโดโซห์น ตั้งไว้ด้านทิศตะวันออกของโบสถ์แห่งนี้
Comments Off on การก่อตั้งสถาปัตยกรรมแบบโกธิคยุคปลายของโบสถ์นักบุญโธมัส
Posted by admin on March 27th, 2015 — Posted in บริการ
Tags: La Sagrada Familia
La Sagrada Familia สัญลักษณ์ของบาร์เซโลนา
ปัจจุบันมีคนแห่กันไปดูโบสถ์นี้กันล้นหลาม โดยมีความสูง 170 เมตร ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงานชิ้นอื่นของเกาดี้ ตรงสีสันอันเรียบนิ่งแบบโทนสีธรรมชาติ ให้ความรู้สึกที่สงบผ่อนคลายและเยือกเย็นเ พราะความที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ยังคงรายละเอียดละเมียดที่ละไม ดูจากลวดลายสลักเสลาที่ด้านนอกตัวโบสถ์และภายใน แสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาในศาสนาอย่างท่วมท้น สมกับเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่เขาอุทิศตนให้กับศาสนจักร ก่อนจะสิ้นลมใต้เงาของยอดโบสถ์นั่นเอง
โบสถ์นี้มีชื่อเต็มๆว่า Temple Expiatori de la Sagrada Família
นั้นเป็นสถาปัตยกรรมประจำเมืองบาร์เชโลนาประเทศสเปน เป็นงานศิลปะเฉพาะถิ่นและเป็น อาร์ตนูโวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มหาวิหารซากราด้าฟามิเลีย ผลงานการออกแบบชิ้สุดท้ายและก่อสร้างอันยาวนานที่สุดของเกาดี้ โดยเกาดี้ได้อุทิศ 16 ปีของบั้นปลายชีวิตในการฟูกฟักสร้างสรรค์มหาวิหารแห่งนี้ สร้างในปีพ.ศ. 2432 มีกำหนดก่อสร้างหอคอยทั้งหมด 18 หอคอยนับตั้งแต่ปีเริ่มสร้างจนถึงปัจจุบันสร้างเสร็จไปแล้วแค่ 8 หอคอย งานคืบหน้าไปประมาณ 50 เปอร์เซนต์ สถาปนิกผู้ออกแบบถูกรถรางทับเสียชีวิตไปเมื่อ พ.ศ2469 โดยศพของเขาได้ถูกฝังไว้ในซากราดาฟามิเลียด้วย
ถูกออกแบบมาอย่างชาญฉลาด โดยที่ผู้ออกแบบได้คำนึงถึงทิศทางของแสงแดดที่จะตกกระทบกระจกสีต่างๆ ทำให้เกิดลวดลายสีสันสวยงามภายใน หรือแม้กระทั่งการออกแบบที่ได้รับอิธิพลมาจากธรรมชาติ คือจะมีลวดลายเส้นโค้งมนแบบต้นไม้ตามธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงการใช้เส้นตรงในการออกแบบ และยังมีความงดงามอีกหลายอย่างด้านในซึ่งยากต่อการพรรณา แต่ถ้าได้มีโอกาสเข้าไปชมแล้ว รับรองว่าจะประทับใจแน่นอน ตัวอาคารบรรจงประดับด้วยโมเสคจากเวเนเชี่ยน ประดับด้วยปฏิมากรรมแกะสลักจากหินหลายพันชิ้นจากศิลปินสเปน
ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ก็ยังดำเนินการก่อสร้างคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปีพ.ศ.2569 ลักษณะเด่นของอาคารแห่งนี้จะสังเกตได้ถึงสีที่ตัดกันของหินด้านหน้าและด้านหลังอย่างชัดเจนและพบรูปแบบการก่อสร้างที่แตกต่างกัน ของยุคเก่าและสร้างต่อขึ้นไหม่ในปัจจุบัน มีความเป็นแฟนตาซีมาก มีกำหนดก่อสร้างหอคอยทั้งหมด 18 หอคอยนับตั้งแต่ปีเริ่มสร้างจนถึงปัจจุบันสร้างเสร็จไปแล้วแค่ 8 หอคอย ตัวอาคารบรรจงประดับด้วยโมเสคจากเวเนเชี่ยน ประดับด้วยปฏิมากรรมแกะสลักจากหินหลายพันชิ้นจากศิลปินสเปน
Comments Off on La Sagrada Familia เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงประจำเมืองบาร์เชโลนา
Posted by admin on February 27th, 2015 — Posted in บริการ
Tags: โบสถ์ศิลาแห่งลาไลเบลา

โบสถ์ศิลาแห่งลาไลเบลา เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นมาหลายศควรรษ เป็นสถานที่ผู้คนที่เชื่อในศาสนาคริสต์ นิยมเดินทางมาเยี่ยมชม เพราะเป็นสถานที่ศักสิทธิ์ ศตวรรษที่13 ชาวเอธิโอเปีย สร้างโบสถ์เหล่านี้ด้วยการ สกัดหินผา ก้อนใหญ่ๆ และสร้างโบสถที่มีความสูง3ชั้นขึ้นมาได้ มีระบบการระบายน้ำที่ชาญฉลาดและน่าทึ่ง สำหรับหินที่นำมาสร้างโบสถ์นั้นมาจากภูเขาไฟ ซึ่งในลาไลเบลานั้นพบโบสถ์ลักษณะนี้ทั้งหมด 11แห่ง แต่งล่ะแห่ง มีความแตกต่างกัน และการตบแต่งที่งดงามวิจิตรด้วยการแกะสลัก เป็นศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวแห่งความเชื่อในศาสนาคริสต์ได้สวยงามและน่าทึ่ง ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมแบบหอคอยทรงสูงและมีคูน้ำล้อมรอบ ทั้งนี้รูปสถาปัตยกรรมที่พบโดยส่วนใหญ่จะเป็นวิหารถ้ำ คล้ายถ้ำตามธรรมชาติ ตบแต่งเป็นโบสถ์เป็นโบสถ์ถ้ำสกัดหิน เจาะเข้าไปในแนวหน้าผา แบ่งออกเป้นหลายๆห้อง เชื่อต่อกันอย่างสลับสับซ้อนและ เป็นรูปแบบการสกัดหิดก้อนเดียว ขุดลึกลงไปในพื้น แล้วขุดคูล้อมรอบ จากจำนวนโบสถ์ 11 แห่งนั้น มีอยู่ 4 หลังที่น่าสนใจซึ่งประกอบไปด้วย1. Beta MedhandAlem 2.Beta Mariam 3.Beta Amanuel 4.Beta Ghiorghisอีก7หลังที่เหลือ สร้างในแบบกึ่งอิสระ มีเพียงมุมด้านหน้าเท่านั้นที่แกะสลักแยกจาผาหิน ส่วนชื่อโบสถ์แต่ล่ะหลังมาจากภาษาฮิบรู คำว่า beta ใกล้กับคำว่า Beth ซึ่งหมายถึงโบสถ์ความเป็นมาของ ลาไลเบลา ทั้งนี้นักโบราณคดีส่วนใหญ่เชื่อตรงกันว่า กษัตริย์พระนามว่า ลาไลเบลามีดำริให้สร้างโบสถ์คริสต์ขึ้น มีตำนานกล่าวว่ากษัตริย์ ถูกอนุชาวางยาพิษสลบไป3วัน ระหว่างนั้นถูกพาไปยังสวรรค์และเห็นเมืองที่แกะสลักจากหินผา และบางตำนานกล่าวว่า กษัตริย์ถูกพาไปยังเยลูซาเลม พระองค์สัญญาว่าเมื่อกลับไปแล้วจะสร้างเยลูซาเลมใหม่ ตำนานอันหลังนี้ นักโบราณคดีเชื่อถือมากกว่าตำนานแรกโบสถ์แต่ล่ะหลังสร้างเสร็จใน24 ปี จะเห็นว่าบ้านของชาวเอธิโอเบียส่วนใหญ่ทำด้วยดิน แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถสกัดหิน เป็นโบสถ์ได้น่าทึงขนาดนี้ น่าทึ่งในความสามารถปัจจุบันทางยูเนสโก ขึ้นทะเบียนเป็นเป็นมรกดโลกแล้วตั้งแต่ ในปี ค.ศ.1978 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นสถาปัตยกรรมของโบสถ์ศิลาแห่งลาไลเบลานับได้ว่าเป็นอีกสถานที่สำคัญอีกที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเพราะนอกจากจะได้ชมกับความงามของโบสถ์แล้วยังได้สัมผัสกับความน่าทึ่งของหินที่นำมาใช้ในการสร้างโบสถ์อีกด้วย
Comments Off on ความน่าทึ่งแห่งสถาปัตยกรรมของโบสถ์ศิลาแห่งลาไลเบลา
Posted by admin on January 21st, 2015 — Posted in โอกาสทางธุรกิจ
Tags: ซากโบสถ์เซนต์ปอล

ซากโบสถ์เซนต์ปอล ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองมาเก๊า
มีประวัติความเป็นมายาวนานและมีเรื่องราวเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ ซึ่งโบสถ์เซนต์ปอลถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1602 แล้วเสร็จในปีค.ศ. 1637 ออกแบบโดยพระนิกายเยซูอิตชาวอิตาเลียนโดยความช่วยเหลือของคริสเตียนชาวญี่ปุ่น เป็นโบสถ์คาทอลิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวลานั้น ตั้งอยู่ติดกับวิทยาลัยเยซูอิตแห่งเซนต์ปอล ซึ่งเป็นสถานศึกษาแห่งแรกของชาวตะวันตกในแดนตะวันออกไกลซึ่งมิชชันนารีผู้ เผยแพร่ศาสนาใช้เป็นที่เรียนภาษาจีนที่มาเก๊าก่อนที่จะเดินทางเข้าแผ่นดินใหญ่ โดยซากโบสถ์เซนต์ปอลที่มาเก๊าเป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่งซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเยี่ยมชม ให้เราได้สัมผัสถึงเสน่ห์ความเป็นยุโรปท่ามกลางบรรยากาศเอเชียได้เป็นอย่างดี
ต่อมาในปีค.ศ.1991 มีการบูรณะซ่อมแซมและจัดสร้างบริเวณด้านหลังของซากประตูโบสถ์ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศาสนา ซึ่งมีการรวบรวมภาพเขียนและอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบทางพิธีทางศาสนต่างๆ เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม หลังจากนั้น “ซากโบสถ์เซนต์ปอล” ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งที่อยู่บนมาเก๊าในปีค.ศ.2005 กลายเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้ไปเยือนเกาะมาเก๊าได้เป็นจำนวนมาก ด้วยมนต์เสน่ห์ของซากโบสถ์เซนต์ปอลทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความเป็นยุโรปได้ผ่านทางมรดกโลกแห่งนี้ แม้จะอยู่ท่ามกลางบรรยากาศความเป็นเอเชียแบบชาวจีนในย่านการค้าที่มีนามว่าจัตุรัสเซนาโด้ ซึ่งอยู่บริเวณใจกลางของเกาะมาเก๊า
โบสถ์มาแตร์ เดอีเดิม วิทยาลัยเซนต์ปอล (St.Paul’s College) และป้อมปราการ (Mount Fortress) เป็นสิ่งปลูกสร้างของพระนิกายเยซูฮิต และตั้งใจก่อร่างให้เป็นดั่งอะโครโปลิสแห่งมาเก๊า ซากโบราณสถานที่ยังหลงเหลืออยู่ของวิทยาลัยเซนต์ปอล คือ ประจักษ์พยานการก่อตั้งมหาวิทยาลัยของตะวันตกในภูมิภาคตะวันออกไกล และได้รับการวางหลักสูตรการศึกษาไว้อย่างพิถีพิถัน ขณะที่ซากโบสถ์เซนต์ปอลที่หลงเหลือปัจจุบันถูกนำมาใช้ดุจดั่งแท่นบูชาประจำเมือง และนับเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก และพบที่นี่”มาเก๊า” เพียงแห่งเดียวในโลก และเปิดให้ชมตั้งแต่ 09.00-18.00 น.
Comments Off on ซากโบสถ์เซนต์ปอล สัญลักษณ์ประจำเมืองมาเก๊า
Posted by admin on December 22nd, 2014 — Posted in บริการ

ลานหน้าโบสถ์ มีความสำคัญมาก เพราะลานนี้จะแสดงออกถึงคุณค่าของการต้อนรับเป็นด่านแรก บางครั้งใช้ลานดังกล่าวในการประกอบพิธี หรือบางทีก็ใช้เป็นทางผ่านเข้าเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างภายนอกโบสถ์และภายในโบสถ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อการปรับสภาพจิตใจจากความสับสนวุ่นวายของชีวิตภายนอก เตรียมจิตใจเข้าสู่ความสงบภายในโบสถ์ระเบียงทางเข้าสู่อาคารโบสถ์ การสร้างโบสถ์ในคติเดิมเพื่อจะผ่านเข้าสู่โถงภายในอาคารโบสถ์ จะต้องผ่านระเบียงทางเข้าสู่อาคารโบสถ์ที่เรียกกันว่า Atrium หรือ Nathex ก่อนและบริเวณนั้นจะมีประตูโบสถ์อยู่ ระเบียงนี้ คือ บริเวณที่ให้การต้อนรับบรรดาสัตบุรุษผู้มาร่วมพิธี ซึ่งเปรียบเสมือนพระศาสนจักรเหมือน”มารดาผู้ให้กรต้อนรับลูกๆของพวกเธอ” และประตูทางเข้าโบสถ์ก็เปรียบเสมือน”พระคริสตเจ้า ผูทรงเป็นประตูของบรรดาแกะทั้งหลาย”
หอระฆัง ในการออกแบบสร้างโบสถ์ ควรคำนึงถึงบริเวณการก่อสร้างหอระฆัง และมีการกำหนดให้ใช้หอระฆัง เพื่อประโยชน์ใช้สอยแบบดั้งเดิม นั่นคือ การเรียกสัตบุรุษให้มาร่วมชุมนุมในวันพระจ้า หรือเป็นการแสดงออกถึงวันฉลองและสมโภช รวมทั้งเป็นการสื่อสารให้ทราบกันด้วยสัญญาณเคาะระฆังรูปพระ สอดคล้องกับธรรมเนียมดั้งเดิมของศาสนจักร พระรูปของพระคริสตเจ้า พระแม่มารี และนักบุญได้รับการเคารพในโบสถ์ต่างๆ แต่รูปพระเหล่านี้จะต้องจัดวางในลักษณะที่จะไม่ทำมให้สัตบุรุษวอกแวกไปจากการประกอบพิธีที่กำลังดำเนินอยู่และไม่ควรจำนวนมาก และจะต้องไม่มีรูปนักบุญองค์เดียวกันมากกว่าหนึ่งรูป รวมทั้งจัดขนาดให้เหมาะสมอ่างน้ำเสก เตือนให้รำลึกถึงอ่างล้างบาป และน้ำเสกที่สัตบุรุษใช้ทำเครื่องหมายกางเขนบนตนเองนั้น เป็นการเตือนใจให้ระลึกถึงศีลล้างบาปที่เราได้รับ ด้วยเหตูนี้เองที่อ่างน้ำเสกจึงตั้งไว้ตรงทางเข้าโบสถ์ มีรูปแบบและรูปทรงสอดคล้องกับอ่างล้างบาป
รูปสิบสี่ภาค ไม่ว่ารูปสิบสี่ภาคจะประกอบด้วยพระรูปพร้อมทั้งไม้กางเขน หรือมีเฉพาะไม้กางเขนเพียงอย่างเดียว ก็ให้ประดิษฐานไว้ในโบสถ์ หรือ ณ สถานที่เหมาะสมสำหรับติดตั้งรูปสิบสี่ภาค เพื่อความสะดวกของสัตบุรุษ เครื่องเรือนศักดิ์สิทธิ์ การประกอบพิธีกรรมของคริสตชนต้องใช้อุปกรณ์หลายอย่างทั้งที่เป็นโครงสร้างถาวรและที่เป็นแบบเคลื่อนย้ายได้ มีทั้งเป็นเครื่องเรือนหรือภาชนะ เราใช้ชื่อรวมเรียกอุปกรณ์เหล่านี้ว่า “เครื่องเรือนศักดิ์สิทธิ์” หรือ “เครื่องเรือนพิธีกรรม” ซึ่งหมายถึง อุปกรณ์เหล่านั้นซึ่งมีไว้ใช้สอยในระหว่างการประกอบพิธีการปฏิรูปพิธีกรรมสังคายนาก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ด้วย “พระศาสนจักรเอาใจใส่กวดขันเป็นพิเศษ ให้เครื่องเรือนที่ใช้ในศาสนา สวยงามสมที่จะช่วยให้ครวกิจมีความสง่างาม พระศาสนจักรจึงยอมให้มีการเปลี่ยนปลงรูปทรง การตกแต่งที่เกิดจากความก้าวหน้าทางวิชาการตามยุคสมัย”
Comments Off on การออกแบบสร้างโบสถ์ควรคำนึงถึงบริเวณการก่อสร้างหอระฆังและมีการกำหนดให้ใช้หอระฆัง
Posted by admin on November 25th, 2014 — Posted in บริการ

คำว่าโบสถ์นั้นไม่เคยมีเจตนาเพื่อที่จะให้เป็นองค์กร หรือเป็นรูปแบบบริษัท ที่ทำกิจการค้า แสวงหารายได้ แต่แทนที่ด้วยการหมายความว่า เป็นกลุ่มของคน (พระกายของพระเยซูคริสต์มารวมตัวกัน) แบ่งปันความเชื่ออย่างธรรมดาสามัญซึ่งพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้า ประชากรกลุ่มคนเหล่านี้นั้นได้ยึดถือคำสอนพระคำของพระเจ้า เหมือนที่พระเยซูคริสต์ได้สอนสิ่งเหล่านั้นต่อสาวกของพระองค์ โบสถ์นั้นไม่ได้หมายถึงตึก อาคาร สิ่งปลูกสร้างใดๆ หรือทฤษฎีวิธีการนมัสการ แต่เป็นสถานที่ธรรมดาสามัญ สำหรับการนมัสการพระเจ้า ผ่านทางการบัพติสมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่ซึ่งมีทางเดียวผ่านทางพระเยซูคริสต์ เท่านั้น โบสถ์เริ่มต้นหลังจาก 7 วันที่พระเยซูคริสต์ได้เรบเจอร์ กลับสู่สวรรค์ ใน วันเพ็นเทคอสต์ สาวกทั้งสิบเอ็ดคนได้รวบรวมกลุ่ม 108 คนของกลุ่มสาวกอื่นๆ เข้าด้วยกันทำให้มีจำนวนคนทั้งหมด 119 คนที่ได้เข้ารวมกลุ่มอยู่ด้วยกัน
ถึงแม้วันแรกของการเริ่มต้นโบสถ์นั้นเริ่มต้นที่จะกระทำความผิดพลาด สาวกได้มีแนวความคิดว่า เพราะว่าพวกเขาได้สูญเสียสาวกหนึ่งคน ซึ่งชื่อว่ายูดาส อิสคาริโอท พวกเขาได้เริ่มต้นที่จะแสวงหาสาวกให้ครบสิบสองคน จากนั้นพวกเขาได้เริ่มต้นเลือกจาก กลุ่มของสาวก 108 คน ที่ติด ตามเป็นสาวกของพระเยซูคริสต์และได้เสนอชื่อ โยเซฟ ยุสทัส ผู้ซึ่งเรียกว่า บารซับบาส และ มัทธิอัส หลังจากสองคนได้ถูกรับเลือก พวกเขาได้จับฉลาก เลือกว่าผู้ใดเหมาะสมและเป็น มัทธิ-อัส เขาทั้งหลายจึงเสนอชื่อคนสองคน คือโยเซฟที่เรียกว่าบารซับบาส มีนามสกุลว่ายุสทัส และมัทธีอัส แล้วพวกสาวกจึงอธิษฐานว่าพระองค์เจ้าข้า ผู้ทรงทราบใจของมนุษย์ทั้งปวง ขอทรงสำแดงว่าในสองคนนี้พระองค์ทรงเลือกคนไหน ให้รับส่วนในการปรนนิบัตินี้ และรับตำแหน่งเป็นอัครสาวกแทนยูดาส ซึ่งโดยการละเมิดนั้นได้หลงจากหน้าที่ไปยังที่ของตน
เขาทั้งหลายจึงจับฉลากกัน และฉลากนั้นได้แก่มัทธีอัสจึงนับเขาเข้ากับอัครสาวกสิบเอ็ดคนนั้นโน้ต ความผิดพลาดนี้ที่ได้เกิดจากการกระทำของสาวกในวันนั้น แบ่งแยกออกเป็นสองส่วน ความผิดแรก สาวกได้ตกลงกันในบรรดาพวกเขาเองเรื่องที่พวกเขาควรจะมีสาวกสิบสองคนแทนยูดาส เพราะว่าพวกเขาไม่เคยที่จะได้รับมอบสิทธิอำนาจที่จะกระทำสิ่งนี้อย่างเป็นทางการความผิดที่สอง พวกเขาได้มีจุดประสงค์ของการเลือกอย่างรวดเร็วซึ่งจะเห็นได้ว่า เหลือเพียงสองคนที่ได้เลือกมาเป็นสาวกในสิบสองคน แทนที่พวกเขาจะทำการโหวตเสียง ในกรณีนี้ไม่ว่าอะไรก็ตามที่พวกเขาได้กระทำ นั้นเป็นความผิดพลาด เพราะพวกเขาได้ถือสิทธิ์ ว่าพวกเขาได้มีสิทธิอำนาจที่จะกระทำอย่างเป็นทางการถ้าสาวกได้รอคอยพระเจ้าว่าผู้ใดที่จะส่งมาให้พวกเขา และพระเยซูคริสต์ได้กำหนดแต่งตั้งสาวกคนที่สิบสอง พวกเขาจะได้เห็นการเตรียมการโดยเจตนาเอาไว้เป็นอัครทูต เปาโล และไม่ใช่ มัทธิอัส ผู้ซึ่งที่พวกเขาได้เลือกโดยการจับฉลาก
Comments Off on การเริ่มต้นโบสถ์นั้นเริ่มต้นที่จะกระทำความผิดพลาด สาวกได้มีแนวความคิด
Posted by admin on October 31st, 2014 — Posted in บริการ
Tags: คัมภีร์ไบเบิ้ล, ศาสนาคริสต์

การเผยแพร่ศาสนาคริสต์มีการเผยแพร่ไปทั่วโลก ทำให้มีการรวบรวมคำสอนในรูปแบบของคัมภีร์ไบเบิ้ลจากตัวแทนผู้บอกเล่าหรือสื่อสารกับพระเจ้าเพียงผู้เดียว ทำให้มนุษย์สามารถศึกษาศาสนาผ่านคัมภีร์ไบเบิ้ลได้ จากระยะเวลายาวนานมีการเผยแพร่ไปทั่วโลก ทุกชนชาติ ทุกภาษา และสามารถให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน
คัมภีร์ไบเบิ้ลเปรียบได้กับเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างพระเจ้าและมนุษย์ อีกทั้งมนุษย์ยังมีการพัฒนาคัมภีร์อยู่เสมอ เพื่อให้ตนเองใกล้ชิดกับพระเจ้ามากขึ้น แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ คัมภีร์ไบเบิ้ลไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็ยังมีการพัฒนาต่อไป และคำสอนก็ยังคงอยู่มาตลอด ทำให้มีการแปลไปในหลายๆภาษา ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย อาจจะแตกต่างก็ตรงที่จำนวน เพราะบางพื้นที่รับการเผยแพร่น้อย บางพื้นที่ก็ยอมรับการเผยแพร่มาก นักวิชาการได้ให้ความเห็นว่า กว่าจะมาเป็นคัมภีร์ไบเบิลในทุกวันนี้ มนุษย์ก็เป็นพลังส่วนหนึ่งในการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
ในปัจจุบันมีการก่อสร้างโบสถ์ เพื่อให้ผู้ที่นับถือศาสนาเข้าไปทำพิธีกรรมต่างๆ เช่น การล้างบาป การสารภาพบาป หรือใช้เป็นพิธีแต่งงาน ซึ่งโบสถ์นับเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้ที่นับถือ อีกทั้งโบสถ์ที่สร้างขึ้นยังมีความสวยงามมีศิลปะและสถาปัตยกรรมที่งดงาม ถึงแม้ประเทศจะเป็นเมืองพุทธ แต่ก็ไม่มีการปิดกั้นด้านศาสนา ทำให้มีโบสถ์คริสต์เกิดขึ้นอยู่มากมาย โดยศาสนาคริสต์เป็นอีกศาสนาหนึ่งที่ผู้คนนับถือเป็นจำนวนมาก เพราะเหตุนี้จึงทำให้ในประเทศไทยมีโบสถ์คริสต์เกิดขึ้นมากมาย เนื่องจากใช้เป็นศูนย์รวมจิตใจให้แก่ผู้นับถือและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามให้กับคนในชุมชน นอกจากนี้การท่องเที่ยวไทยยังได้จัดให้โบสถ์คริสต์บางแห่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยแต่ละที่มีสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกัน
ศาสนาคริสต์ในประเทศไทยที่นิยมนับถือมีอยู่หลักๆ 2 นิกาย คือ นิการโรมันคอทอลิก และนิกายโปรเตสแตนด์ และมีวิธีการเรียกที่แตกต่างกัน เช่นคาทอลิกจะเรียกว่าโบสถ์ ส่วนโปรเตสแตนด์จะเรียกโบสถ์ของตนเองว่า คริสตจักร และมีรูปแบบการสร้างที่แตกต่างกัน
Comments Off on โบสถ์ คัมภีร์เบเบิ้ล เป็นเครื่องมือในการสื่อสารระหว่างพระเจ้าและมนุษย์
Posted by admin on September 25th, 2014 — Posted in บริการ
Tags: คริสตจักร, นิกายโรมันคาทอลิค, โบสถ์

โบสถ์ เป็นสถานที่สำหรับสวดมนต์อ้อนวอนขอพร และสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า และใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ เช่น พิธีแต่งงาน พิธีมิสซา คริสตศาสนิกชนจะต้องไปเข้าโบสถ์ในวันอาทิตย์ เพื่อสวดมนต์ฟังธรรม สารภาพบาป และขอพรจากพระเจ้า เมื่อเกิดพิธีกรรมก็ต้องมีศาสนสถานเกิดขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางของผู้คนในศาสนาคริสต์ที่จะไถ่บาปหรือร่วมทำพิธีกรรม ส่วนในเรื่องของความเชื่อก็ได้สื่อออกมาในรูปแบบของงานสถาปัตยกรรมตามความเชื่อทางศาสนาและงานจิตรกรรมภายในโบสถ์อย่างสวยงามในทางคริสต์ศาสนา โบสถ์ อาคารหรือสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์มารวมกันเพื่อประกอบพิธีหรือทำศาสนกิจร่วมกัน คำว่าโบสถ์ในภาษาอังกฤษ หรือ “church” อาจมีความหมายกว้างขึ้นหมายถึง คริสตจักร ซึ่งคริสตจักรในความหมายตามพระคัมภีร์ หมายถึง ประชากรหรือชุมชนของพระเจ้า พระคัมภีร์เดิมฉบับแปลกรีก (เซปทัวจินต์) ใช้คำกรีกคำนี้เพื่อแปลคำว่า “ชุมชน” คริสตศานาในประเทศไทย มีหลายนิกาย แต่ละนิกายจะมีจารีตและการใช้คำ สัญลักษณ์ที่แตกต่างกันนิกายที่มีประชาชนรู้จักและนับถือกันมากมีอยู่ 2 นิกาย คือ นิกายโรมันคาทอลิก (คริสตัง)และนิกายโปรเตสเเตนต์(คริสเตียน) แต่ละนิกายจะมีวิธีเรียกที่แตกต่างกันเช่น นิกายโรมันคาทอลิคจะเรียกโบถส์ของตนเองว่า โบสถ์ เช่น โบสถ์พระแม่มารี โบสถ์ในนิกายนี้จะตกต่างด้วยสถาปัตยกรรมยุโรบ ประดับประดาด้วยรูปปั้นต่างๆ แต่นิกายโปรแตสแตนส์จะเรียนกโบถส์ของตนเองว่า คริสตจักร เช่น คริสตจักรพระสัญญา อาคารของโบสถ์จะเน้นความเรียบง่ายเหมือนอาคารทั่วไป ไม่เน้นรูปเคารพหรือรูปปั้น อาจจะมีไม้กางเขนเล็กพอเป็นเครื่องหมาย แสดงถึงอาคารทางด้านศาสนกิจเท่านั้น
นิกายโรมันคาทอลิก เรียกโบสถ์ของตนว่า “วัด” เช่น วัดพระแม่มารี วัดเซนต์หลุยส์ วัดกาลหว่าร์ วัดแม่พระประจักเมืองลูร์ด วัดนักบุญยอแซฟ ฯลฯ โดยทั่วไป อาคารของโบสถ์มักมีลักษณะของสถาปัตยกรรมยุโรป ที่ต่างจากอาคารที่พักอาศัย เน้นความศิลปะและยิ่งใหญ่ ประดับด้วยรูปปั้นต่างๆ อย่างไรก็ตามในท้องถิ่นทุรกันดารอาจสร้างแบบเรียบง่ายก็ได้ นิกายโปรเตสแตนต์ เรียกโบสถ์ของตนว่า “คริสตจักร” เช่น คริสตจักรพระสัญญา ฯลฯ อาคารของโบสถ์เน้นความเรียบง่าย ดูเหมือนอาคารทั่วไป ไม่เน้นรูปปั้นรูปสลัก มีไม้กางเขนประดับเป็นเครื่องหมายถึงอาคารทางศาสนกิจเท่านั้นศาสนสถานของศาสนาคริสต์ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นศูนย์ร่วมของศาสนาคริสต์ในทุกเรื่อง มีความหมายสำหรับทุกคนและเป็นสถานที่เผยแผ่ เก็บรักษาพระคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งเป็นหนังสืออันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนายิวและคริสต์ศาสนา และสืบทอดศาสนาคริสต์ต่อไป
Comments Off on ศาสนาคริสต์ มีโบสถ์ วิหาร ใช้เป็นที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ ของคริสตชน